อังคาร. มี.ค. 19th, 2024
แก่แม้กระนั้นเก๋า

แก่แม้กระนั้นเก๋า เดชดำรงค์ ส.อำนวยศรีโชค นับว่าเป็นนักสู้ระดับตำนานอีกทั้งในแวดวงมวยไทยรวมทั้งศิลป์การต่อสู้แบบประสมประสาน

แก่แม้กระนั้นเก๋า พร้อมประสบการณ์การต่อยกว่า 350 ไฟต์ รวมทั้งยังเป็นคนประเทศไทยคนแรกและก็ผู้เดียวที่ขึ้นนั่งแท่นแชมป์โลก ONE ในกีฬาการต่อสู้แบบประสมประสาน ซึ่งจนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีนักสู้คนประเทศไทยผู้ใดกันแน่บนเวที ONE ที่ทำเป็นอย่างเขาอีกเลย

วันนี้ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค ในวัย 42 ปี ได้โอกาสคืนสังเวียนอีกทีพร้อมความมุ่งหวังจะกลับไปยืนในจุดสุดยอดที่เคยยืนในฐานะแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต แม้กระนั้นการจำเป็นต้องประจันหน้ากับ บันหม่า ดาวรุ่งสุดฮอตดินแดนมังกร ทำให้ เดโชดำรงค์ ถูกเห็นว่า “แก่เกินแกง” จนถึงไม่น่าจะต่อกรกับคู่แข่งที่ทั้งยังสดแล้วก็เข้มแข็งกว่าได้ มวยไทย

แก่แม้กระนั้นเก๋า

อย่างไรก็แล้วแต่ ส.อำนวยศิริโชค ยังคงมีไฟนักสู้แล้วก็ยังหิวซึ่งความมีชัย โดยไม่สนใจกับคำวิจารณ์ต่างๆนานา พร้อมด้วยตระเตรียมแผนไว้ต่อกรกับนักสู้สมาชิกใหม่ไว้เป็นระเบียบ และก็จะไม่ยินยอมให้คนใดหน้าไหนมาใช้เขาเป็นบันไดได้อย่างไม่ยากเย็น

“ที่คนเขาว่าผมแก่ ผมก็เห็นด้วยในส่วนนั้น แต่ว่าผมอยากที่จะให้ทราบดีว่าหัวใจพวกเราเต็มที่ สิ่งที่เขาดูแคลนมามันเป็นแรงกระตุ้น และก็ผมจะก่อให้เขามีความเห็นว่าผมยังมีความตั้งอกตั้งใจแน่แน่วที่จะสู้ต่อ แล้วก็ที่ผมยังไม่ยินยอมเลิก ด้วยเหตุว่าต้องการจะได้ช่องชิงชนะเลิศโลก ONE อีกสักหนึ่งครั้ง”

“บันหม่า ตั่วจี๋ มีสไตล์ยืนสู้รวมทั้งหมัดอัปเปอร์คัตที่น่าสยดสยอง แม้กระนั้นท่านอนของเขาไม่มีอะไรที่ผมไม่สบายใจ ผมคิดแผนที่จะเชื้อเชิญเขาเล่นท่านอนดังที่ผมได้ฝึกหัดมา แต่ว่าถ้าเกิดเขาต้องการจะยืนสู้ มันก็เป็นลูกที่พวกเราถนัดอยู่แล้ว แล้วก็ผมจะสอนให้รู้จักพิษสงของวิชามวยไทยนินทากาจเพียงใด”

แก่แม้กระนั้นเก๋า “อันที่จริงแล้วก็เป็นปกติที่ดาวรุ่งจำเป็นต้องปีนบันไดขึ้นมา ราวกับยุคผมชกมวยไทยผมก็เป็นด่านให้รุ่นน้อง แต่ว่าการที่จะผ่านพวกเราไปมันไม่ใช้ว่าจะง่าย ถ้าหากเขาเก่งจริง พวกเราก็จำต้องสารภาพ แต่ว่าต้องการจะพูดว่าผมเป็นด่านหินที่ผ่านผ่านไปยากครับผม”

เรื่องราวของนักสู้ระดับตำนาน “ไอ้ตาดุ” เดชดำรงค์ ภายหลังล่ำลาเวทีผ้าใบ รวมทั้งหันไปขึ้นชกวงกลม สร้างประวัติศาสตร์คนใหม่ในฐานะคนประเทศไทยคนแรกแล้วก็ผู้เดียวที่ครองแชมป์โลก ONE ในกีฬาการต่อสู้แบบประสมประสาน

“ส.อำนวยศิริโชค สมัยก่อนนักมวยไทยระดับเจ้าตำนานผู้คลุกคลีบนทางนักสู้มากมายว่า 30 ปี จุดเริ่มของเขามาจากบิดาที่ถูกใจมองมวย ก็เลยฝึกหัดฝึกมวยให้เขาเพื่อความสนุกสนานร่าเริง

แก่แม้กระนั้นเก๋า แต่ว่าชีวิตก็เปลี่ยนให้ก้าวขึ้นชกคราวแรกด้วยค่าตอบแทน 70 บาท ก่อนที่จะสั่งสมกระดูกมวยรวมทั้งขยับไปชิงชัยในเวทีใหญ่ เบาๆเก็บเกี่ยวประสบการณ์กว่า 350 ไฟต์

กระทั่งได้แชมป์มวยไทยจากเวทีมวยเวทีลุมพินีมาครอบครองถึง 3 รุ่น ก่อนที่จะตกลงใจล่ำลาแวดวงมวยไทย ทิ้งเอาไว้เพียงแต่ความโด่งดังในฐานะตำนาน https://www.mmajacked.com

แก่แม้กระนั้นเก๋า

ข้างหลังรีไทร์จากอาชีพนักมวย ในวัย 36 ปี ก็ผันตัวไปเป็นผู้ฝึกสอนที่ Evolve MMA ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมนักกีฬาการต่อสู้ระดับแชมป์โลกมาก

ไม่น้อยเลย ทีเดียวซึ่งปักหลัก เป็นผู้ฝึกสอนอยู่ตรงนั้น มันไม่ใช่วาระสุดท้ายของอาชีพนักสู้ แต่เป็นจุดกำเนิดบนทางสายใหม่เมื่อเขาได้ทราบจะกีฬาศิลป์การต่อสู้แบบผสม

เริ่มแรก ไม่สนใจกีฬา จำพวกนี้เลย เนื่องจากมี อคติว่าเป็นการต่อสู้ ที่ล้มแล้วซ้ำได้ ซึ่งไม่เหมือนกับมวยไทยที่ล้มแล้วห้ามซ้ำ แม้กระนั้นเมื่อได้คลุกคลีกับกีฬานี้อย่างเอาจริงเอาจัง

แก่แม้กระนั้นเก๋า ก็เลยรู้เรื่องว่า มันเป็นกีฬา ที่มีความใกล้เคียง กับการต่อสู้ ในชีวิตจริง ทั้งยังมีกฎ ข้อตกลงซึ่งเป็น ที่ยอมรับในระดับสากล โดยมีความแพร่หลาย ในต่างชาติมานานแล้ว เปิดข้อเท็จจริง

ท้ายที่สุด ก็เปิดใจศึกษาศาสตร์ การต่อสู้กิ่งก้าน สาขานี้ โดยใช้เบื้อง ต้นมวยไทยเป็น แกนหลักสำหรับเพื่อการต่อสู้ด้วยท่ายืน แล้วก็เสริมวิชาบราซิลเลียน ชาวยิวยิตสูเข้าไปเพื่อ ใช้ในเกมนอนสู้

ข้างหลังฝึกหัดอยู่ราว 4-5 เดือน ก็เริ่มมีความเชี่ยวชาญสำหรับการต่อสู้แบบประสมประสาน แล้วก็ตกลงใจขึ้นชกหยั่งดูท่าทีไฟต์แรกตอนวันที่ 14 เดือนมิถุนายน 2557 กับสร้างผลงานสุดถูกใจ ข้างหลังคว้าแชมป์เหนือคู่ปรปักษ์ “โจมานซ์ โอมานซ์” ด้วยการน็อกเอาต์ในชูแรก

แล้วต่อจากนั้น ก็เดินหน้าแข่ง อย่างสม่ำเสมอ ทุกสองเดือน จนกระทั่งสามารถ เก็บความมี ชัยแบบไม่ครบชูต่อเนื่องกันถึง 4 ไฟต์ในปี 2557 และก็ในปีถัดมา ก็เก็บสถิติชนะคะแนนอีก 2 ไฟต์ พ่วงตำแหน่งแชมป์โลก ONE รุ่นสตคอยว์เวต

ยอมรับว่าหากแม้ เขาจะเคยผ่าน การชิงแชมป์ มาบ่อยครั้ง ในชีวิต แม้กระนั้นคราวนี้ ต่างจากก่อนหน้าที่ผ่านมา เพราะว่าเป็นกีฬาใหม่ รวมทั้งมีคนประเทศไทย เพียงแต่ไม่กี่ ผู้ที่เป็นนักกีฬาจำพวกนี้

เขาประจันหน้า กับคู่ต่อสู้แชมป์โลก ชาวประเทศฟิลิปปินส์ “รอย โดลิเกวซ” ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์โลก WBO รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต ปี 2003 รวมทั้งผันตัว มาชิงชัย ในกีฬาการต่อสู้ แบบผสมด้วยเหมือนกัน

การแข่งขันชิงชัยดำเนินไปถึงชูที่ 5 ซึ่งเป็นชูท้ายที่สุด แม้กระนั้น ก็มีเหตุทำให้จำเป็น ต้องเลิกลง ก่อนหมดเวลา ผู้ตัดสินก็เลยเก็บคะแน นจากชูก่อนหน้าที่ผ่านมา

รวมทั้งยกมือให้ อำนาจดำรงค์ ชนะไปด้วย คะแนนอย่าง เป็นเอกฉันท์ คว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวตมาครอบครอง เป็นคนแรก ในประวัติศาสตร์ ของรายการ

By admins