พฤหัส. มี.ค. 28th, 2024
ตำนานบทใหม่

ตำนานบทใหม่ แม้กระนั้นถึงแบบนั้นเธอก็ยังเหนือกว่าผู้อื่น สิ่งนี้มันยอดมาก อิดะ ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปี 2013

ตำนานบทใหม่ “ถ้าหากเธอได้ฝึกหัดแนวทางเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ตอนมัธยมศึกษาตอนปลาย เธอก็จะยิ่งปรับปรุง แล้วก็เข้มแข็งกว่านี้แน่ ๆ ” อิริเอะพกความแน่ใจเต็มเปี่ยมตอนขึ้นชั้นม. ปลาย ด้วยดีกรีแชมป์ระดับประเทศ และก็เข้าไปอยู่ชุมนุมมวยของโรงเรียนมัธยมศึกษาปลายโยนาโงะนิชิ พร้อมตั้งเป้าหมายครองแชมป์ 3 ยุคต่อเนื่องกันราวกับยุคมัธยมศึกษาตอนต้น

แต่ว่าจุดเปลี่ยนแปลงก็มาถึงตอนมัธยมศึกษาตอนปลายปี 1 (มัธยม4) เมื่ออิริเอะซึ่งเป็นตัวเต็ง จำเป็นต้องหยุดป้ายแค่เพียงรอบ 8 คนในที่สุดในอินเตอร์ไฮ ข้างหลังแพ้ให้กับ สึกิมิ นามิกิ (ถัดมาคุณเป็นผู้ครอบครองเหรียญทองแดงรุ่นฟลายเวท ในเมืองโตเกียว 2020) 3-0 มันเป็นความปราชัยในไฟต์อย่างเป็นทางการทีแรกของเธอ ก่อนที่จะมันจะก่อให้คุณเข้มแข็งขึ้น จนถึงสามารถได้แชมป์ระดับประเทศ 2 ปีต่อเนื่องกัน ตอนปี 2 รวมทั้ง ปี 3 (มัธยม5 แล้วก็ มัธยม6) รวมถึงติดกลุ่มชาติประเทศญี่ปุ่นรุ่นเยาวชน เปิดด้วยการเผชิญ

รวมทั้งคว้าเหรียญทองแดงสำหรับการชิงชัยมวยเยาวชนชิงชนะเลิศโลก 2018 ที่บูดาเปสต์ ฮังการี อิริเอะยังคงเดินหน้าสืบต่อทางนักต่อยของเธอข้างหลังจบมัธยมศึกษาตอนปลาย ด้วยการไปศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การกีฬานิปปอน สถาบันที่ผลิตนักกีฬากลุ่มชาติออกมาเยอะแยะ ในเวลาเดียวกันเธอยังติดกลุ่มชาติชุดใหญ่ ลงต่อยในศึกชิงชนะเลิศโลก 2019

ตราบจนกระทั่งในปี 2020 เธอก็มายืนอยู่ที่จุดเริ่มของความฝัน เมื่อสามารถคว้าตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในโอลิมปิก 2020 ในรุ่นเฟเธอร์เวทได้สำเร็จ ข้างหลังจบในอันดับ 2 ในรอบคัดทวีปเอเชีย-โอเชียเนีย และก็เปลี่ยนเป็นเพศหญิงประเทศญี่ปุ่นคนแรกที่ผ่านเข้าไปถึงรอบในที่สุดในกีฬาประเภทนี้ เหลืออีกเพียงแต่ไม่กี่ก้าวเพียงแค่นั้น

ตำนานบทใหม่

ตำนานบทใหม่ อิริเอะเป็นจริงเป็นจังกับโอลิมปิก 2020 มากมาย มันเป็นราวกับอีกทั้งความจำนง เป็นเสมือนความฝัน

เพราะเหตุว่าเวลาที่บิดาคุณซื้อโทรศัพท์ให้เป็นเครื่องแรกตอนขึ้นชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เธอยังเลือกหมายเลขโทรศัพท์ที่มีเลข 2020 อยู่ในนั้น ทำให้โอลิมปิกคราวนี้ มีความจำเป็นกับเธอเป็นพิเศษ เมื่อก่อนการแข่งขันชิงชัยไม่นาน การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็มาพรากทั้งหมดทุกอย่างไปกระทั่งหมด แล้วก็ทำให้การประลองจำต้องเลื่อนออกไปอีกหนึ่งปี

แม้กระนั้นในอีกด้านหนึ่ง มันก็ทำให้ อิริเอะมีเวลาฝึกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องด้วยการระบาดของเชื้อไวรัสทำให้มหาวิทยาลัยจะต้องหยุดการศึกษาเล่าเรียนการสอนชั่วครั้งคราว แล้วก็ทำให้เธอได้กลับไปยังถิ่นกำเนิด เพื่อจุดโฟกัสกับมวยเพียงอย่างเดียว “มันเป็นช่องทางที่ทำให้ฉันหนักแน่นขึ้น” อิริเอะบอก ตราบจนกระทั่งในปี 2021 เมืองโตเกียว โอลิมปิก ก็สามารถเปิดการประลองจนได้

แม้ว่าจะเป็นการแข่งที่ไม่มีผู้ชม เพราะเหตุว่าเหตุการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสที่ยังไม่ดีขึ้น มันอาจส่งผลให้เจ้าของงานเสียเปรียบอยู่บ้าง ที่ไม่มีแฟนกีฬาแคว้นเข้ามาส่งเสียงให้กำลังใจ แต่ว่าไม่ใช่สำหรับ อิริเอะที่ก่อนโอลิมปิกจะเริ่มขึ้น เธอได้รับแรงใจชั้นเลิศจาก ยู โคยามะ คนเขียนเรื่อง เก็งกิ ยอดนักสู้ ด้วยการวาดภาพตัวเธอพร้อมคำว่า “สู้เขา! เซนะ” เป็นของขวัญ มวย วันนี้

และก็ดูเหมือนมันจะช่วยเพิ่มกำลังใจให้เธอได้จริง ๆ เมื่อมันทำให้ อิริเอะทำผลงานได้อย่างเด่นตั้งแต่รอบแรกด้วยการเอาชนะ ยามิเลซ โซลอร์ซาโน นักต่อยจากเอลซัลวาดอร์อย่างเป็นเอกฉันท์ 5-0 ต่อด้วย คูลูด ฮลิมี จากตูนีเซีย ด้วยคะแนนเดียวกันในรอบ 16 คน ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เธอโคจรมาเจอกับ มาเรีย เนชิตา จากโรมาเนีย ซึ่งการแข่งขันชิงชัยเป็นไปอย่างใกล้เคียง ทำให้ต่างข้างต่างแลกหมัด

แต่ว่าท้ายที่สุดก็แปลงเป็น อิริเอะที่เอาชนะไปได้ 3-2 เสียง กับการันตีเหรียญทองแดงเป็นอย่างต่ำ แม้กระนั้นจุดมุ่งหมายของ อิริเอะมิได้หยุดอยู่เท่านั้น ในรอบรองชนะเลิศคุณต้องเจอกับ คาร์ริส อาร์ชิงสตอล ผู้ครอบครองตำแหน่งรองแชมป์ยุโรป 2019 แล้วก็ เหรียญทองแดงในศึกชิงชนะเลิศโลกในปีเดียวกัน แม้กระนั้น อิริเอะก็เดินหน้าลุยอย่างเต็มที่

ก่อนที่จะเอาชนะไปได้อย่างเฉียดฉิว 3-2 เสียง ผ่านเข้าชิงแชมป์ได้เสร็จ อย่างไรก็ตาม คู่ประมือของ อิริเอะในนัดหมายชิงแชมป์ไม่ใช่งานง่าย เนื่องจากคุณเป็น เนสตี เปเตซิโอ นักต่อยชาวประเทศฟิลิปปินส์ผู้ครอบครองตำแหน่งแชมป์โลก 2019 และก็รองแชมป์ทวีปเอเชีย 2015 ที่เคยพบกันมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งต่างฝ่ายต่างเอาชนะกันไปคนละที ทำให้ อิริเอะจำต้องใช้วิธีการล่อให้นักต่อยประเทศฟิลิปปินส์เดินเข้าพบ

โดยอาศัยตอนแขนที่ยาวกว่าแย็บซ้ายเข้าไปเรื่อยซึ่งดูเหมือนมันจะได้ผล เมื่อมันทำให้คุณออกนำตั้งแต่ยกแรก กระทั่งสามารถเอาชนะไปได้ 5-0 เมื่อสิ้นเสียงระฆังในที่สุด รวมทั้งตั้งแต่แมื่อวินาทีนั้น ประตูแห่งประวัติศาสตร์ก็ได้เปิดขึ้นแล้ว

ตำนานบทใหม่

ฝันที่เป็นจริง ฉันเพียรพยายามบอกตนเองว่านี่เป็นเรื่องจริง ฉันแปลงเป็นชั้น 1 ของโลก

แต่ว่าฉันยังไม่เคยทราบสึกว่ามันเป็นความจริง ฉันก็เลยมานะมองเหรียญทองของฉันอีกหลายต่อหลายครั้ง” อิริเอะกล่าว ข้างหลังสิ้นเสียงประกาศจากพิธีกรบนเวที อิริเอะก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีอกดีใจ แล้วต่อจากนั้นน้ำตาที่ความปลื้มปิติก็ไหลออกมา น้ำตาที่เป็นเครื่องรับรองว่าเธอมิได้ฝันไป มันเป็นเหรียญทองที่มีค่ากับเธอมากมาย

เพราะว่านอกเหนือจากจะก่อให้คุณเปลี่ยนเป็นนักมวยหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นที่คว้าเหรียญทองในโอลิมปิกแล้ว มันยังมีผลให้เธอกระทำตามความฝันได้เสร็จ ความฝันของเด็กนักเรียนชั้นประถมคนนั้น “ฉันมิได้เป็นนักกีฬาที่มีพรสวรรค์ ฉันหวังว่าฉันจะสามารถส่งต่อพลังใจ และก็การันตีว่าพวกเราจะได้รับบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่แน่ ๆ ถ้าหากพวกเราทำงานมาก” อิริเอะกล่าว

ในเวลาเดียวกัน มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้มีความคิดเห็นว่า มวยไม่ใช่กีฬาที่ทารุณหรือโหดร้ายทารุณเสมอ เนื่องจากแม้กระทั้ง อิริเอะที่มองเป็นมิตร แล้วก็มักมากับรอยยิ้มตอนอยู่นอกสังเวียน ก็ยังสามารถคว้าเหรียญในโอลิมปิกได้ “เมื่อคุณได้ยินว่าเด็กผู้หญิงอย่างฉันต่อยมวย คุณอาจจะมีความคิดว่าเธอถูกใจใช้กำลังแล้วก็เจ้าอารมณ์” ผู้ครอบครองเหรียญทองโอลิมปิกรุ่นเฟเธอร์เวทกล่าวต่อ

“แม้กระนั้นฉันรวมทั้งผู้อื่นในกลุ่มชาติก็ล้วนแล้วแต่สุภาพกันทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ฉันหวังว่าเหรียญทองของฉันจะช่วยในการเปลี่ยนมุมมองนั้น” สิ่งจำเป็นที่สุดเป็นแนวทางการทำให้คนประเทศญี่ปุ่นหันมาพึงพอใจกีฬาจำพวกนี้ โดยภายหลังคุณคว้าเหรียญทอง แฮชแท็กคำว่า #บ็อกซิ่ง ได้เปลี่ยนเป็นเทรนด์ในทวิตเตอร์ประเทศญี่ปุ่น และก็มีการทวีตเนื้อความไปถึง 82,000 ครั้ง

“ฉันหวังว่าการคว้าเหรียญทองในคราวนี้ จะก่อให้การรายงานข่าวมวยหญิงหรือกีฬาที่ผู้หญิงลงแข่งขันประเเภทอื่น ๆ มีมากยิ่งกว่านี้” อิริเอะกล่าว อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ อิริเอะจะคว้าเหรียญทองมาครอบครองได้สำเร็จ แม้กระนั้นดูราวกับว่าโอลิมปิกคราวนี้จะเป็นหนสุดท้ายในชีวิต เมื่อเธอประกาศว่าจะเลิกหลังจากจบการศึกษา หรืออีกเพียงแค่ 2 ปีด้านหน้าเพียงแค่นั้น

“ฉันมีความรู้สึกว่าฉันจะเลิกต่อยมวยหลังจากสำเร็จการศึกษา ข้างหลังโอลิมปิกฉันอาจเริ่มต้นหางาน ฉันถูกใจกบมากมาย ด้วยเหตุดังกล่าวฉันก็เลยต้องการทำอะไรกับกบ หรือไม่ก็บางครั้งก็อาจจะเกี่ยวกับเกม เพราะฉันถูกใจวิดีโอเกม” อิริเอะบอก ซึ่งไม่เคยทราบว่าเป็นความบังเอิญหรือตั้งมั่น เพราะว่าสิ่งนี้ดันไปคล้ายกับชีวิตของ เก็งกิ โฮริงุริ ตัวนำของเรื่อง “เก็งกิ ยอดนักสู้” ไอดอลในวัยเด็กของคุณ ที่ตกลงใจรามือตอนอายุ 19 ปี

ข้างหลังสามารถเอาชนะ เคนจิ เซกิ นักต่อยที่เคยทำให้บิดาของเขาเสียชีวิตมาได้ เหมือนกับว่าเมื่อความฝันของทั้งสองเสร็จสิ้นแล้ว มันก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะได้กลับไป “ดำเนินชีวิต” แบบธรรมดาบ้าง โดยปลดปล่อยให้การชกมวยเป็นเพียงแค่ฉากหนึ่งในชีวิตของพวกเขา เพียงแต่ว่าสิ่งนี้เป็นฉากสำคัญที่พวกเขาไม่มีทางลืม “ขอขอบคุณมาก ที่ฉันไปบังเอิญพบตอนอยู่ ป.2 ฉันต้องการจะพูดว่ามันทำให้ฉันสุขสบายมากมายในขณะที่ฉันอายุ 20 ขอบพระคุณการ์ตูนประเด็นนี้จริง ๆ ” อิริเอะกล่าว

https://www.cornermxpark.com/

By admins