ตำนานตัวจริง ไมค์ ไทสัน อดีตนักชกรุ่นยักษ์ เจ้าของฉายา “มฤตยูดำ” ร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสำหรับในการต้านทานความรุนแรง

ตำนานตัวจริง แล้วก็การเหยียดผิว ด้วยการแชร์ภาพที่ตนเองคุกเข่า ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ข้างหลังตอน ก่อนหน้านี้กระแส Black Lives Matter กำลังแพร่ไปไปทั้งโลก

ตำนานนักมวยแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท ได้โพสต์ภาพแสดงจุดยืน ด้วยการนั่งคุกเข่า เพื่อเรียกร้อง ความเท่าเทียม รวมทั้งต้านทานการดูถูกผิว (Black Lives Matter) ผ่านอินสตาแกรม เว็บสังคมออนไลน์ ยอดนิยม เมื่อวันอังคาร

จากในกรณีที่ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน เสียชีวิต เพราะการใช้ความร้ายแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวประจำเมืองมินเนียอาโปลิส เมืองมินเนโซต้า อเมริกา ทำให้เกิดกระแสการต่อต้านไปทั่วดินแดนคุณลุงแซม ในเวลาเดียวกันทั่วโลกก็รวมจิตใจเป็นเยี่ยมเพื่อต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว

ตอนที่ผ่านมาคนดังมากมายได้ออกมาแสดงจุดยืนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวข้างต้นด้วยเหมือนกัน โดยบรรดาคนภายในแวดวงกีฬาคนไม่ใช่น้อยก็ออกมากระตุ้นเกี่ยวกับหัวข้อนี้ ปัจจุบัน “ไอรอนไมค์” ซึ่งพึ่งประกาศหวนกลับสังเวียนในวัย 53 ปี ขอร่วมเป็นเลิศพลังสำหรับ การต้านทานการเหยียดสีผิว ด้วยการนั่งคุกเข่าพร้อมแชร์ภาพนี้ ผ่านโลกออนไลน์ มวยไทย

ดังนี้ท่าย่อเข่าเป็นการแสดงสัญลักษณ์ต้านการแบ่งผิว รวมทั้งความไม่เท่าเทียมกัน รวมถึงการใช้ความรุนแรงของตำรวจ โดยคนแรกที่เริ่มก็คือ วัวลิน เคปเอ้อร์นิก ซึ่งทำแบบงี้ขณะที่มีการร้องเพลงเพลงชาติสหรัฐฯ ยุคที่เล่นให้ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส กลุ่มในศึกอเมริกันบอล เอ็นเอฟแอล เมื่อปี 2016

อดีตกาลนักต่อย รุ่นยักษ์จอมสีสัน เปิดใจหากไม่ได้สมรสรอบที่ 3 อาจฆ่าตัวตายไปแล้ว พร้อมเจาะจง ลากิฮา สไปเซอร์ ภรรยาคนปัจจุบัน เป็นผู้หญิงที่ช่วยทำให้ตนมี ความเป็นผู้ใหญ่ เยอะขึ้น แถมตบท้ายให้ คิดผู้ชายที่ กลัวเมีย จะได้โอกาสใช้ชีวิตได้ถูก ไม่หลงทาง

ตำนานแชมป์มวยโลกรุ่นเฮฟวี่เวท ออกโรงเปิดเผยเรื่องสุดช็อกว่าบางครั้งอาจจะฆ่าตัวตายไปแล้วหากไม่มี ลากิฮา สไปเซอร์ เมียคนปัจจุบันนี้ พร้อมสารภาพหญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเปรียบเสมือนคุณครูที่ช่วย เปลี่ยนมุมมอง และก็ความนึกคิด

“มฤตยูดำ” วัย 53 ปี ซึ่งพึ่งประกาศตัวคืนสังเวียนผืนผ้าใบอีกรอบเมื่อตอนไม่กี่อาทิตย์ก่อน ผ่านการแต่งานมาแล้ว 2 ครั้งกับ โรบิน กิเวนส์ ระหว่างปี 1988-1989 รวมทั้ง โมนิก้า เทอร์เนอร์ ระหว่างปี 1997-2003 ก่อนจะมาเจอรักกับ สไปเซอร์ ที่เปรียบดังครูในชีวิตของเขา แล้วก็สมรสในปี 2009 จนกว่าปัจจุบันนี้ก็ยังครองรักกัน อย่างหอมหวาน

เปิดเผยเกี่ยวกับชีวิตสมรสว่า “หากว่าไม่มีเมีย ผมก็ดังสัตว์ป่าดุร้าย ผมดูสตรีไม่เหมือนกัน กับเดิมเนื่องจาก ว่าผมแก่แล้ว ตอนยุควัยรุ่น ผมมองดูพวกคุณ แค่เพียงเรื่องสนุก ปัจจุบันนี้ผมแก่แล้ว อยากตะบันหน้า

ผมดูพวกคุณ เป็นราวกับกึ่งหนึ่งของชีวิต มันทำให้ ผมรู้สึกเป็น เพศชายสุดกำลัง ในขณะนี้ของชีวิต พวกคุณเป็นราวกับคุณครูของผม ถ้าเกิดเพศชายที่ปราศจากความกลัวเมีย ของเขาซักนิด ชีวิตของเขาน่า จะเดินไปผิดทาง”

“ไอรอนไมค์” เปิดเผยถัดไปว่าเขาจำเป็นต้องสมรสโน่นเป็นเหตุผลที่ตกลงใจลงหลักปักฐานครั้งลำดับที่สาม “โน่นเป็นเหตุผลที่ผมสมรส 3 ครั้ง ด้วยเหตุว่าผมไม่สามารถที่จะมีชีวิต อยู่ได้โดยปราศจากภรรยา ถ้าเกิดผมไม่มีภรรยา ผมคงฆ่าตัวตายไปแล้ว บอกเลยว่า ที่กล่าวนะความ เป็นจริงนะ ผมอยากใครบางคนที่ฟังผม ผมเป็นราวกับ ทหารแข็งกระด้าง ผมไม่อาจจะคิดอะไรได้ด้วยตัวเอง ผมจำเป็นต้องมี ใครสักคนเพื่อรอฟัง แล้วก็ให้คำแนะนำ”

ตำนานตัวจริง อดีตกาลนักต่อยรุ่นยักษ์ เปิดใจเคยสูบกัญชาก่อนจะขึ้นสังเวียนกับ แอนดรูว์ โกโลตา โดยไฟต์นี้ “ไอรอนไมค์” ไล่ผลาญคู่ปรับยับไม่นับเครือญาติอย่างกับโกรธ มาแม้กระนั้น อดีตชาติ กระทั่งท้ายที่สุด จะต้องยอมยกธงขาว ขอยอมในตอนต้นชู 3

ตำนานแชมป์มวยโลกรุ่นเฮฟวี่ เวท รับรองเคยดูดกัญชา ก่อนจะขึ้นไป ตะบันหน้า แอนดรูว์ โกโลตา ช่วงปลายปี 2000 แล้วก็จัดแจงไล่ผลาญ อย่างบ้าคลั่งจนถึงสุดท้าย คู่ต่อยจำต้องขอยอม ด้วยเหตุว่าไม่ออกมา จากมุมช่วงต้นชู 3

“ไอรอนไมค์” ตอนนี้ อายุ 53 ปี เดินเข้าใส่ โกโลตา ตั้งแต่เสียงระฆังชูแรกดังขึ้น แล้วก็จัดแจงไล่ตอนคู่ต่อย อย่างบ้าเลือดในตอน 2 ชูแรก เมื่อไปสู่ชู 3 โกโลตา ขอยอมแพ้เพราะ ว่ากระดูกโหนกแก้มแตก แล้วก็คอเจ็บ

แม้กระนั้นข้างหลัง ชกเสร็จ จำต้องเข้ารับ การตรวจโด๊ป รวมทั้งผลออกมา เป็นบวกจาก การที่เจ้าตัวดูดกัญชา ส่งผลให้จำต้องถูกปรับเงิน โดยประเด็นนี้ “มฤตยูดำ” ได้ยืนยันว่าตนทำผิดจริงๆ แต่ว่าก็ทำเพียง แต่ครั้งเดียวเท่านั้น

“ผมเคยดูดกัญชา ครั้งนึงใน เวลาที่ขึ้นชก มันเป็นไฟต์ ที่ผมจำต้องเจอกับ โกโลตา โน่นเป็นเพียงแค่ครั้งเดียวที่ผมดูดกัญชา รวมทั้งขึ้นสังเวียน มันมิได้มีผล อะไรกับผมเลย แต่ว่ามีผลกับ โกโลตา มากยิ่งกว่า พวกเขาปรับเงินผม จากการกระทำอย่างงั้น”